ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์



ฮาร์ดแวร์ ( Hardware )

 ฮาร์ดแวร์ หมายถึง ส่วนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ เช่น ตัวเครื่อง จอภาพ คีย์บอร์ด และเมาส์ เป็นต้น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยทั่วไปจะมีฮาร์ดแวร์หลัก ๆ ได้แก่ 
        1. ตัวเครื่อง (Case) ทำหน้าที่ในส่วนของการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาจากอุปกรณ์นำเข้าต่างๆ ซึ่งภายในตัวเครื่องจะมีอุปกรณ์หลัก ได้แก่ แผงวงจรหลัก หม้อแปลงไฟฟ้า ซีพียู ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจำ การ์ดแสดงผล การ์ดเสียง เป็นต้น
        2. จอภาพ (Monitor) ทำหน้าที่แสดงผลข้อความ รูปภาพ
        3. ดิสก์ไดร์ฟ (Disk drive) เป็นอุปกรณ์อ่าน-เขียนข้อมูลบนดิสก์เก็ต
        4. คีย์บอร์ด (Keyboard) ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
        5. เม้าส์ (Mouse) เป็นส่วนที่ใช้สั่งงานด้วยการชี้และเลือกสิ่งต่างๆที่แสดงอยู่บนจอภาพ
        6. ลำโพง (Speaker) เป็นส่วนที่ใช้แสดงผลที่เป็นเสียง






ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ Case


          Case คอมพิวเตอร์ ก็คือกล่องสำหรับบรรจุอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ คอมพิวเตอร์ เอาไว้ข้างใน เพื่อประโยชน์ในการยึดอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีความมั่นคง กะทัดรัด เคลื่อนย้ายได้ ขณะเดียวกันก็เพื่อความปลอดภัย เช่น ป้องกันไฟดูด ป้องกันอุปกรณ์สูญหาย และการป้องกันการส่งคลื่นรบกวนการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ

ชนิดของ เคส คอมพิวเตอร์

1.แบบฟูลทาวเวอร์ (Full Tower)
เป็นเคสแบบวางแนวตั้งที่มีขนาดใหญที่สุด โดยส่วนมากนิยมตั้งกับพื้นเพราะ มีน้ำหนักมาก เนท่องจากออกแบบมาให้สามารถใส่อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดีวีดีรอม และอื่นๆ เพิ่มได้อีกหลายตัว 








2.แบบมีเดียมทาวเวอร์ (Medium Tower)
เป็นเคสแบบวางแนวตั้งที่มีขนา่ดเล็กกว่าแบบฟูลทาวเวอร์ ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและพบเห็นได้โดยทั่วไป สามารถตั้งไว้บนโต๊ะหรือบนพื้นก็ได้










3.แบบมีเดียมทาวเวอร์ (Medium Tower)
เป็นเคสแบบวางแนวตั้งที่มีขนา่ดเล็กกว่าแบบฟูลทาวเวอร์ ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและพบเห็นได้โดยทั่วไป สามารถตั้งไว้บนโต๊ะหรือบนพื้นก็ได้







4.แบบวางแนวนอนหรือแบบเดสก์ท็อป (Desktop)
เป็นเคสแบบวางแนวนอนแล้ววางจอภาพไว้บนตัวเคส นิยมใช้กันตามบริษัทหรือตามหน่วยงานต่างๆ หลายแห่ง เนื่องจากไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงาน






5.แบบพิเศษ
เคสแบบนี้โดยมากมักเป็นเคสที่ใช้กับเมนบอร์ดประเภท Flex ATX, LPX หรือ NLX  ซึ่งในปัจจุบันเริ่มจะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัด ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มาก และมีการออกแบบรูปทรงที่สวยงาม











ส่วนประกอบเมมบอร์ด (Mainboard)


1.ซ็อกเก็ตซีพียู(CPU Socket)  
เป็นตำแหน่งสำหรับติดตั้งซีพียู(CPU) รูปแบบซ็อกเก็ตจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของซีพียู(CPU)การซื้อเมนบอร์ด(Mainboard)มาใช้งานนั้นจึงต้องตรวจสอบว่า เมนบอร์ด(Mainboard)ที่เราซื้อนั้นใช้กับซีพียู(CPU)ตัวไหน ในปัจจุบันที่นิยมกันจะมี 4 แบบ คือ LGA 775 สำหรับ Core 2 ,Socket AM2+/AM3 สำหรับ AMD ตลอดจน LGA 1366 ของ Core i7 และ LGA 1156 สำหรับ Core i3/i5







2. ชิปเซต (Chipset) 
ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานต่างๆ ของอุปกรณ์ภายในทั้งหมดที่อยู่เมนบอร์ด(Mainboard) และชิปเซตจะเป็นตัวกำหนดว่าใช่่ร่วมกับซีพียู(Central Processing Unit) ตัวไหน เพราะชิปเซตแต่ละตัวนั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของซีพียู(Central Processing Unit) ตัวนั้นให้มีประสิทธิภาพ ชิปเซตนั้นจะมีอยู่ 2 แบบ คือ North Bridge ที่ทำหน้าที่รับ/ส่งการทำงานของซีพียู(CPU)และแรม(RAM)และ South Bridge ที่มีขนาดเล็กกว่า  North Bridge มีหน้าที่ควบคุมสล็อต PCI , ดิสก์ไดรว์ต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น คีย์บอร์ดเมาส์ หรือพอร์ตต่างๆ ที่อยู่ด้านหลังเครื่อง







3.ซ็อกเก็ตแรม (RAM Socket) 
คือ ช่องที่ไว้สำหรับใส่แรม(RAM : Random Access Memory) ซึ่งจะถูกติดตั้งไว้บนเมนบอร์ด(Mainboard) ซึ่งซ๊อกเก็ตแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันออกไป สังเกตได้จากรอยบาก ซึ่งเมนบอร์ด(Mainboard)แต่ละตัวจะรองรับแรม(RAM : Random Access Memory) ที่ไม่เหมือนกัน ต้องสังเกตว่าเมนบอร์ดที่ซื้อนั้นใช่ซ๊อกเก็ตแรมแบบไหน ปัจจุบันก็มีตั้งแต่รุ่นเก่า คือ SDRAM ไปจนถึงแรม(RAM : Random Access Memory) DDR , DDR2 และ DDR3  เป็นต้น







4.หัวต่อของไดรว์ต่างๆ จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ด้วยกัน คือหัวต่อสำหรับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์หรือเรียกง่ายๆ โบราณๆ ก็ แผ่นดิสก์นั่นแหละครับ อย่างที่สองคือหัวต่อสำหรับฮาร์ดดิสก์(Harddisk)และไดรว์CD/DVD หัวต่อฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์มีจำนวนขา 34 ขา(เข็มที่จะไม่มีนะครับเค้าทำเพื่อป้องกันการเสียบผิดนั่นเอง)ใช้เชื่อมต่อกับไดรว์ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ส่วนหััวต่อฮาร์ดดิสก์(Harddisk)และไดรว์ CD/DVD ปัจจุบันนิยม 2 แบบคือ
4.1หัวต่อแบบ IDE มีลักษณะเหมือนฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ แต่มีจำนวนเข็ม 40 ขา (เข็มที่ 20 จะไม่มี) เมนบอร์ด(Mainboard)รุ่นใหม่จะมีหัวต่อแบบ IDE มาเพียงช่องเดียว เนื่องจากความนิยมที่ลดน้อยลง  แต่ละหัีวต่อจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 2 ตัวขนานกันในสายเพียงสายเดียว การเชื่อมต่อแบบ IDE นี้เรียกว่า เอทีเอแบบขนาน (Parallel ATA)

4.2หัวต่อแบบ Serial ATA (SATA) มีขนาดเล็กกว่าแบบ IDE การรับ/ส่งข้อมูลจะใช้การต่อแบบอนุกรม การเชื่อมต่อแบบ Serial ATA (SATA) มีอัตราการรับ/ส่งข้อมูลที่สูงกว่าคือ 150 MB/s ปัจจุบัน Serial ATA (SATA) ได้รับการพัฒนาให้มีอัตราการรับ/ส่งข้อมูลให้สูงขึ้นถึง 300 MB/s และ 600 MB/s กันเลยทีเดียว








5. หัวต่อแหล่งจ่ายไฟ(Power Supply) 
จะมีรูปแบบแหล่งจ่ายไฟอยู่ทั้งหมด 2 แบบ คือ

5.1หัวแบบ ATX ซึ่งเป็นหัวต่อหลักที่เมนบอร์ด(Mainboard)ทุกรุ่นนั้นต้องมี เป็นชุดจ่ายไฟหลักสำหรับเมนบอร์ด(Mainboard) เมื่อก่อนหัวต่อ ATX จะเป็นแบบ 20 ช่อง(2 แถว แถวละ 10 ช่อง) ปัจจุบันจะเป็น 24 ช่อง(2 แถว แถวละ 12 ช่อง)โดยเพิ่มตำแหน่งของการจ่ายไฟให้มากขึ้น

5.2หัวต่อแบบที่ 2 เรียกว่า ATX 12V หัวต่อชนิดนี้จะเพิ่มการจ่ายแรงดันไฟฟ้า 12 โวต์ขึ้นมาซึ่งเมนบอร์ด(Mainboard)ทุกรุ่นในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้หัวต่อชนิดนี้เพิ่มขึ้นมาจากหัวต่อเดิม และแหล่งจ่ายไฟ(Power Supply) ในปัจจุบันก็ทำหัวต่อชนิดนี้ไว้ให้อยู่แล้ว










หน่วยประมวลผลกลาง
(central processing unit)

หน่วยประมวลผลกลาง ( central processing unit) หรือย่อว่า ซีพียู (CPU) เป็นวงจรอิเลคทรอนิกส์ที่ทำงาน หรือประมวลผล ตามชุดของคำสั่งเครื่องจากซอฟต์แวร์ คำนี้เริ่มใช้ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ต้นศตวรรษ 1960s
หน่วยประมวลผลเปรียบเสมือนเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ในการทำหน้าที่ตัดสินใจหรือคำนวณ จากคำสั่งที่ได้รับมา เช่น การเปรียบเทียบ การกระทำการทางคณิตศาสตร์
โดยมีกระบวนการพื้นฐานคือ
1.อ่านชุดคำสั่ง (fetch)
2.ตีความชุดคำสั่ง (decode)
3.ประมวลผลชุดคำสั่ง (execute)
4.อ่านข้อมูลจากหน่วยความจำ (memory)
5.เขียนข้อมูล/ส่งผลการประมวลกลับ (write back)

หน่วยตรรกะ (Arithmetic Logic Unit: ALU) 
ทำหน้าที่ในการคำนวณ เปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ โดยที่จะทำงานประสานกับหน่วยความจำหลัก (ซึ่งจะกล่าวในลำดับถัดไป)

หน่วยควบคุม (Control Unit: CU) 
ทำหน้าที่ในการควบคุมและสั่งการให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการทั้งการรับข้อมูล การแสดงผลข้อมูล เป็นต้น










หน่วยความจำ (Memory Unit)


 1. หน่วยความจำหลัก (Main Memory) หรือเรียกว่า หน่วยความจำภายใน (Internal Memory) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ - รอม (Read Only Memory - ROM) เป็นหน่วยความจำที่มีโปรแกรมหรือข้อมูลอยู่แล้วสามารถเรียกออกมาใช้งานได้แต่จะไม่สามารถเขียนเพิ่มเติมได้และแม้ว่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงให้แก่ระบบข้อมูลก็ไม่สูญหายไป 




- แรม (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่สามารถเก็บข้อมูลได้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้น เมื่อใดไม่มีกระแสไฟฟ้ามาเลี้ยงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำชนิดนี้จะหายไปทันที

 








2. หน่วยความจำรอง (Second Memory) หรือหน่วยความจำภายนอก (External Memory) เป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยสื่อบันทึกข้อมูลและอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลชนิดต่างๆ ได้แก่
 2.1 ฮาร์ดดิสก์    (Hard Disk) เป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งโปรแกรมใช้งานต่างๆ ไฟล์เอกสาร รวมทั้งเป็นที่เก็บระบบปฏิบัติการที่เป็นโปรแกรมควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย





2.2 ฟล็อบปี้ดิสก์ (Floppy Disk) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาด 3.5 นิ้ว มีลักษณะเป็นแผ่นกลมบางทำจากไมลาร์ (Mylar) สามารถบรรจุข้อมูลได้เพียง 1.44 เมกะไบต์ เท่านั้น





2.3 ซีดี (Compact Disk - CD) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบดิจิทัล เป็นสื่อที่มีขนาดความจุสูง เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ซีดีรอมทำมาจากแผ่นพลาสติกกลมบางที่เคลือบด้วยสารโพลีคาร์บอเนต (Poly Carbonate) ทำให้ผิวหน้าเป็นมันสะท้อนแสง โดยมีการบันทึกข้อมูลเป็นสายเดียว (Single Track) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 120 มิลลิเมตร ปัจจุบันมีซีดีอยู่หลายประเภท ได้แก่ ซีดีเพลง (Audio CD) วีซีดี (Video CD - VCD) ซีดี-อาร์ (CD Recordable - CD-R) ซีดี-อาร์ดับบลิว (CD-Rewritable - CD-RW) และ ดีวีดี (Digital Video Disk - DVD)  






 2.4 รีมูฟเอเบิลไดร์ฟ (Removable Drive) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ไม่ต้องมีตัวขับเคลื่อน (Drive) สามารถพกพาไปไหนได้โดยต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย Port USB ปัจจุบันความจุของรีมูฟเอเบิลไดร์ฟมีตั้งแต่ 2, 4 , 8 , 16 , 32 กิกะไบต์ ทั้งนี้ยังมีไดร์ฟลักษณะเดียวกัน เรียกในชื่ออื่นๆ ได้แก่ Pen Drive , Thump Drive , Flash Drive







2.5 ซิบไดร์ฟ (Zip Drive) เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่จะมาแทนแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ มีขนาดความจุ 100 เมกะไบต์ ซึ่งการใช้งานซิปไดร์ฟจะต้องใช้งานกับซิปดิสก์ (Zip Disk) ความสามารถในการเก็บข้อมูลของซิปดิสก์จะเก็บข้อมูลได้มากกว่าฟล็อปปี้ดิสก์






2.6 Magnetic optical Disk Drive เป็นสื่อเก็บข้อมูลขนาด 3.5 นิ้ว ซึ่งมีขนาดพอๆ กับฟล็อบปี้ดิสก์ แต่ขนาดความจุมากกว่า เพราะว่า MO Disk drive 1 แผ่นสามารถบันทึกขัอมูลได้ตั้งแต่ 128 เมกะไบต์ จนถึงระดับ 5.2 กิกะไบต์


  



2.7 เทปแบ็คอัพ (Tape Backup) เป็นอุปกรณ์สำหรับการสำรองข้อมูล ซึ่งเหมาะกับการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ ขนาดระดับ 10-100 กิกะไบต์




2.8 . การ์ดเมมโมรี (Memory Card) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาดเล็ก พัฒนาขึ้น เพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์เทคโนโลยีแบบต่างๆ เช่น กล้องดิจิทัล คอมพิวเตอร์มือถือ (Personal Data Assistant - PDA) โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น










ซอฟต์แวร์

1.ซอฟต์แวร์สำหรับระบบ (System Software) 
คือชุดคำสั่งที่เป็นระบบปฏิบัติการต่างๆที่ทำงานควบคู่กับระบบต่างๆภายในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ หรือจะกล่าวง่ายๆนั่นก็คือ Windows Mac หรือแม้แต่ Linux และนอกจากนี้ยังรวมถึงโปรแกรมที่เขียนในภาษาคอมพิวเตอร์อย่าง C C# Java Pascal พวกนี้เองก็เป็นหนึ่งในการช่วยให้ ซอฟต์แวร์นั้นมีระบบที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น


2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) มันคือ โปรแกรมที่ถูกออกแบบ ถูกทำมาให้กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆให้สามารถสั่งงานเพื่อตอบสนองรูปแบบการทำงานอย่าง เครื่องคิดเลข โปรแกรมแต่งรูป หรือแม้แต่ โปรแกรมแชท ต่างๆ เองก็เป็นโปรแกรมพื้นฐานที่ทุกเครื่องต้องมีนอกจากนี้ยังรวมถึง ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน คือ โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่องานนั้นๆ เช่น โปรแกรมบริหารต่างๆ โปรแกรมออกแบบบ้าน หรือ โปรแกรมPOS เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้สามารถดัดแปลงแก้ไขให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังมี ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เป็นโปรแกรมที่พร้อมในการใช้งานโดยไม่ต้องทำการเขียนเอง แต่เราจะไม่สามารถปรับหรือแก้ไขตัวโปรแกรมได้ เช่น MS Office Adobe IE และ เกมส์ต่างๆ เป็นต้น














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น